วัสดุปลูก ผลของวัสดุปลูกที่มีต่อการเจริญเติบโตและผลผลิต

วัสดุปลูก

วัสดุปลูก ส่วนประกอบของดินมีหลากหลายชนิด ขึ้นกับองค์ประกอบของดินได้แก่ ทราย ดินขี้ตะกอนแล้วก็ดินเหนียวที่อยู่รวมกันเป็นอนุภาคดิน การดูแลและรักษาส่วนประกอบของดินให้ร่วนพอดิบพอดีเป็นเรื่องสำคัญ ความอุดมสมบูรณ์ของดินควรจะมีธาตุของกินที่พืช อยากใช้อย่างสมบูรณ์ อินทรีย์วัตถุเป็นองค์ประกอบที่มีในเนื้อดินอีกอย่างหนึ่งที่ สำคัญซึ่งได้จากการเปื่อยยุ่ยที่เรียกว่าฮิวมัส ซึ่งโดยมากเป็นสารคอลลอยด์ที่ช่วยดูดยึดน้ำแล้วก็ธาตุอาหารพืช

วัสดุปลูก การ เม็ด ชนิดผักกาดหอม ได้แก่ กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค บัตเตอร์เฮด

การเพาะกล้าสลัดโดยใช้กล่องรักษาอาหารที่มีฝาปิดมิดชิด รองข้างในด้วยกระดาษชำระราว 2 ชั้นแล้วประพรมน้ำให้กระดาษแฉะ รวมทั้งเทน้ำออก แล้วต่อจากนั้นให้นำ เม็ด สลัดมาโรยลงบนกระดาษชำระ โดยไม่ต้องประพรมน้ำซ้ำ แล้วปิดฝากล่องให้สนิท ราว 24 – 48 ชั่วโมงเม็ดจะเริ่มแตกออกการกระตุ้นการงอกด้วยแนวทางแบบนี้จะมีผลให้เม็ดที่พวกเราเพาะมีเปอร์เซ็นต์การงอกรวมทั้งความสม่ำเสมอของการงอกสูงมากขึ้นการเพาะเม็ดผักมีหลายแนวทางที่จะเพาะให้ผักโตพอที่จะอนุบาลต่อได้ เเต่สำหรับ 11 แนวทางที่จะเสนอตั้งแต่นี้ต่อไปเป็นการเพาะโดยฟองน้ำเนื่องจากว่าได้

โอกาสเติบโตเกือบจะ 100% ได้โอกาสเสียหายน้อยมาก สำหรับวิธีการเพาะเม็ดที่ชี้แนะข้างล่างนี้เป็นเพียงแค่แนวทางหนึ่งที่ช่วยลดการเสี่ยง จากการที่จำต้องเพาะเม็ดซ่อมแซมในเรื่องที่พวกเราเพาะลงในฟองน้ำหรือสิ่งของปลูกโดยตรง แล้วเม็ดผลิออกไม่บ่อยนักกันหรือเม็ดไม่แตกหน่อ ทำให้พวกเราจำเป็นต้องเสียเวล่ำเวลาสำหรับในการเพาะซ่อมแซมเม็ดที่ไม่สมบูรณ์หรือเปล่าแตกออกทำให้ผักในแปลงปลูกอายุแตกต่างกัน สำหรับคนที่อยากเพาะเม็ดลงสิ่งของปลูกโดยตรงสามารถทำเป็นครับผม แม้กระนั้นชี้แนะให้เพาะเผื่อไว้กันพลาด เป็นต้นว่าการเพาะสลัดธรรมดากพวกเราจะใส่ 1 เม็ดต่องฟองน้ำ 1 ก้อน ก็ให้พวกเราใส่ไปราว 2 – 3 เม็ด เมื่อต้นเกล้าอายุได้ราวๆ 7 วัน ก็ให้เลือกต้นที่มีความสมบูรณ์ที่สุดไว้ 1 ต้น ที่เหลือก็ถอนออกครับผม

 

 

วัสดุปลูก

ปรับความชุ่มชื้นอุปกรณ์เพาะให้ได้ราว 60% หรือทดลองกล้วยๆด้วยการกำสิ่งของเพาะว่าจับแบบเป็นๆก้อนไม่แตก วัสดุปลูก บีบแล้วไม่มีน้ำไหลก็ใช้ได้ แล้วหลังจากนั้นตักสิ่งของเพาะใส่ถุงหรือกระสอบที่มีรูระบายอากาศนำต้นกล้าใส่กระถางปลูก (ใส่ต้นกล้าจากข้างล่างกระถางเพื่อคุ้มครองปกป้องการพับหักงอของรากพืชจากการใส่ฟองน้ำจากข้างบนกระถาง) โดยให้ตูดของฟองน้ำโผล่ออกมาจากตูดกระถาง

เวอร์มิคูไลท์ เวอร์มิคูไลท์เป็นธาตุประเภทหนึ่งที่นิยมใช้ในเรือนเพาะชำและก็โรงเรือน มีน้ำหนักค่อยและก็มีค่า pH เป็นกลาง ก็เลยเหมาะกับพืชหลายชนิด เวอร์มิคูไลท์ยังระบายน้ำก้าวหน้า ที่สามารถช่วยคุ้มครองป้องกันรากเน่ารวมทั้งปัญหาอื่นๆนอกนั้นยังช่วยเพิ่มการเติมอากาศในดินที่สามารถช่วยสนับสนุนการเติบโตของรากที่ดี

การแยกกล้าลงถาดหลุม

ภายหลังจากต้นกล้าเติบโตพอเพียงแล้ว ขั้นถัดมาเป็น การย้ายกล้าลงถาดหลุม ซึ่งมีขั้นตอนกล้วยๆดังต่อไปนี้ร่อนดินใส่เอาไว้ข้างในถาดเพาะกล้าให้เต็ม เฉือนให้เรียบ และก็หลังจากนั้นจึงค่อยรดน้ำให้เปียกแฉะ ต่อจากนั้น ใช้ไม้แหลมเหมือนแท่งดินสอหรือไม้ลูกชิ้นแทงแงะต้นกล้าขึ้นมาเป็นกลุ่มเลือกต้นกล้าที่แข็งแรงหมายถึงต้นตรง ไม่งอ มีรากอยู่มาก เมื่อเลือกเสร็จ ค่อยวางต้นกล้าลงในถาดหลุม โดยให้รากจ่อไปที่ปากหลุม แล้วก็ใช้ไม้กดไปที่ราก ให้ต้นตั้งชัน รากจมดินเหลือใบรวมทั้งลำต้นไว้ สิ่งจำเป็นเป็น ต้องระมัดระวังอย่ากดที่โดนต้น เพราะเหตุว่าต้นกล้าบางทีอาจหักได้วางพักเอาไว้ภายในที่ร่มสัก 2 วัน หมั่นรดน้ำรวมทั้งอย่าให้สิ่งของเพาะกล้าแห้ง ด้วยเหตุว่าต้นกล้าถูกใจอยู่ใต้ร่มเงา ถูกใจอากาศรวมทั้งดินที่ชื่น พอเพียงเข้าวันที่ 3 ก็เลยนำออกแดดได้ รดน้ำอย่างระแวดระวังไม่ให้ต้นกล้าหัก เพียงพอต้นกล้าอายุได้ราว 20 วัน ก็เลยย้ายปลูกลงแปลงที่ตระเตรียมไว้ถัดไป

  • ทราย (sand) ได้มาจากการผุพังของหินประเภทต่างๆเปลี่ยนเป็นหินก้อนเล็กๆก็เลยมีน้ำหนักมากมาย ไม่มีธาตุของกิน ไม่สามารถที่จะแลกประจุบวกก็เลยมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ เก็บความเปียกชื้นได้ไม่ดี แม้กระนั้นมีความอยู่ตัวสูง ระบายน้ำได้ดิบได้ดี ทรายที่ใช้ทั่วๆไปมีแบบทรายหยาบ เหมาะสำหรับการนำมาใช้ผสมสิ่งของปลูก ส่วนทรายละเอียดหรือทรายขี้เป็ดมีเม็ดละเอียด สีคล้ำ มีดินขี้ตะกอนรวมทั้งอินทรีย์วัตถุคละเคล้าอยู่บ้าง การระบายน้ำไม่ดีก็เลยไม่เหมาะสมประยุกต์ใช้สำหรับการปลูกพืช

การ เพาะเม็ด ผักบุ้งให้พวกเรานำเม็ดผักบุ้งแช่น้ำก่อนโดยประมาณ 6 – 12 ชั่วโมง นำเฉพาะ เม็ด ที่จมน้ำไปเพาะ วัสดุปลูก  ผักบุ้งจะใช้เวลาผลิออกราว 5 – 14 วัน อุณหภูมิที่สมควรต่อการงอก 18 – 25 องศาเซลเซียสอายุเก็บเกี่ยวราว 20 – 25 วันการ เพาะเม็ด ขึ้นฉ่ายให้พวกเรานำเม็ดแช่น้ำโดยประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง แล้วห่อด้วยผ้า หรือใส่กล่องพลาสติกรักษาอาหาร ปิดฝาให้สนิทแล้วหลังจากนั้นก็ค่อยนำไปแช่ลงในตู้แช่เย็นช่องปกติราวๆ 1 วัน แล้วเอามาเพาะตามเดิม จะก่อให้ ขึ้นฉ่ายจะใช้เวลาแตกหน่อราวๆ 5 – 7 วัน อุณหภูมิที่สมควรต่อการงอกเป็น 15 – 20 องศาเซลเซียสอายุเก็บเกี่ยวราวๆ 70 – 80 วัน

นำกระดาษชำระวางลงภายในกล่องรักษาอาหาร โดยวางกระดาษชำระทับกันราวๆ 2 – 3 ชั้น หาเงินออนไลน์  เสปรย์น้ำลงบนกระดาษชำระ หรือใช้แนวทางเบาๆเทน้ำลงไปบนกระดาษให้ทั่ว ให้กระดาษซับน้ำไว้ในตัว และหลังจากนั้นก็ให้เทน้ำที่เหลือออกมาจากกล่องให้หมด อย่าให้มีน้ำขังอยู่ในกล่อง (ให้กระดาษซับน้ำไว้อย่าให้กระดาษเฉอะแฉะมากเกินความจำเป็น) น้ำที่ใช้เป็นน้ำดื่มสะอาด ห้ามใช้ประปาที่มีคลอรีนโดยเด็ดขาด เหตุเพราะคลอรีนในประปาจะก่อให้เม็ดเน่า และไม่แตกออกได้ ชี้แนะให้ใช้น้ำกินขวดใส อย่าใช้น้ำขวดขุ่นเนื่องจากน้ำหวานขุ่นจะกรองด้วยเรสิน ซึ่งใช้เกลือสำหรับการล้างสารกรอง เกลือจะส่งผลต่อการงอกของเม็ดสลัด

พีท (peat)วัสดุปลูก

ได้มาจากซากพืชที่ขึ้นกับในน้ำในภาวะที่ย่อยสลายไม่สมบูรณ์ ก็เลยขึ้นกับมูลเหตุ ซึ่งมีความไม่เหมือนกันตามสถานที่กำเนิด วิธีการเสื่อมสภาพ แร่ของกินและก็ความเป็นกรดด่าง อย่างเช่น มอสพีทหรือพีทมอส ได้มาจาก sphagnum สามารถซับน้ำได้มากถึง 15 เท่าของน้ำหนักแห้ง มีความเป็นกรดสูง มีธาตุอาหารอยู่น้อยหรือเปล่ามีเลย มีการประยุกต์ใช้กันมากมายสำหรับการเพาะเม็ดทางพืชสวน ราคาแพงค่อนข้างจะสูง หากเพิ่มในอุปกรณ์มากมายอาจส่งผลให้น้ำซึมผ่านได้ยาก

การ เพาะเม็ด ผักชี

ให้พวกเรานำเม็ดมาห่อด้วยกระดาษหรือผ้าแล้วก็ใช้ท่อพีวีซี เกลือกกดเม็ดให้แตกเป็น 2 ด้าน แล้วค่อยนำไปแช่น้ำอุ่นราว 2 – 3 ชั่วโมง (หรือจวบจนกระทั่งเม็ดจะจม) แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยนำไปเพาะตามเดิมจะมีผลให้ผักชีแตกออกได้เร็วขึ้น ธรรมดาผักชีจะใช้เวลาแตกออกราว 5 – 7 วัน ผักชีไทย อายุเก็บเกี่ยวราว 40 – 50 วัน ผักชีลาวอายุเก็บเกี่ยวโดยประมาณ 55 – 60 วัน การ เพาะเม็ด ผักชีฝรั่ง นำเม็ดแช่น้ำอุ่นราว 2 – 3 ชั่วโมง แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยนำไปเพาะตามธรรมดา โดยจะใช้เวลาแตกออกโดยประมาณ 5 – 7 วัน อายุเก็บเกี่ยวราว 100 – 120 วัน

นำเม็ดวางลงบนกระดาษชำระที่เปียกน้ำนั้น สำหรับเม็ดสลัดแบบไม่ฉาบภายหลังจากวางลงบนกระดาษแล้วไม่มีความจำเป็นที่ต้องเสปรย์น้ำซ้ำอีกครั้ง เนื่องจากว่าเม็ดสลัดจะมีขนอ่อนๆที่จะดูดน้ำขึ้นมาจากกระดาษได้เอง (สำคัญที่กระดาษชำระอย่าให้แห้ง หรือเฉอะแฉะเหลือเกิน) ส่วนเม็ดแบบฉาบควรจะเสปรย์น้ำซ้ำอีกครั้งเพื่ออุปกรณ์ห่อเม็ดแฉะ แต่ว่าอย่าให้กระดาษที่รองเฉอะแฉะมากเกินความจำเป็น หลังจากนั้นให้ปิดฝากล่องเพาะเม็ดให้สนิท หากเป็นได้ตอน 12 – 24 ชั่วโมงแรกสำหรับการเพาะเม็ดนี้ให้นำกล่องเพาะนี้ไปวางไว้ภายในที่ที่มีอุณหภูมิราว 18 – 25 องศา C (ห้องปรับอากาศ) จะก่อให้อัตราการงอกสูงมากขึ้นขอรับ วัสดุปลูก

หมักสิ่งของเพาะในที่ร่ม 15-30 วัน ก็สามารถประยุกต์ใช้เพาะเม็ดผักได้ทุกจำพวก สูตรอุปกรณ์เพาะนี้ใช้แทนพีทมอสได้ดิบได้ดี ยิ่งหมักทิ้งเอาไว้นานก็ยิ่งดี ลักษณะก็จะคล้ายพีทมอสมากมายนำต้นกล้าที่สวมกระถางปลูกแล้วไปใส่ไว้ภายในช่องปลูกของรางปลูก โดยสังเกตุว่าตูดของฟองน้ำสัมผัสกับน้ำในรางปลูกหรือเปล่า แม้ยังไม่สัมผัสก็ให้ขยับฟองน้ำลงมาเพื่อตูดของฟองน้ำแตะต้องกับน้ำในรางปลูก (ให้น้ำในรางปลูกสัมผัสกับฟองน้ำราว 2 – 3 มม.)

  • เพอร์ไลท์ เพอร์ไลท์ เป็นธาตุอีกประเภทหนึ่งที่นิยมใช้ในเรือนเพาะชำแล้วก็โรงเรือน เป็นหินภูเขาไฟที่ขยายตัวและก็ก่อตัวเป็นเม็ดเล็กน้ำหนักค่อย เพอร์ไลท์มีชื่อเสียงจากคุณลักษณะการระบายน้ำที่ดี ที่สามารถช่วยคุ้มครองป้องกันโรครากเน่าและก็ปัญหาอื่นๆได้ นอกเหนือจากนั้นยังช่วยเพิ่มการเติมอากาศในดินที่สามารถช่วยสนับสนุนการเติบโตของรากที่ดี อย่างไรก็ดี เพอร์ไลท์อาจมีฝุ่นละอองค่อนข้างจะมากมาย ซึ่งอาจส่งผลให้เป็นโอกาสที่ไม่ค่อยชื่นชอบนักทำสวนบางบุคคล

การย้ายต้นกล้า (Transplanting)

เมื่อใบของต้นกล้าเริ่มมีสีเขียว แล้วก็ เริ่มเอนลำต้นเข้าพบแสงสว่างมากเพิ่มขึ้น นั้นก็แสดงว่า ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจำเป็น วัสดุปลูก ต้องย้ายต้นกล้าลงแปลงหรือกระถางได้แล้ว ตามที่กล่าวไปแล้วในบทที่แล้ว การย้ายต้นกล้าต้องระมัดระวังไม่ให้รากถูกอากาศ เนื่องจากรากมีความหวั่นไหวต่ออากาศมากมาย รากจะถูกอากาศเพียงแค่ 2-3 วินาที ก็มากมายพอเพียงที่อากาศจะเข้าไปทำลายขนรากหรือรากขนาดเล็กเยอะมากๆได้

สแฟกนัมมอส (sphagnum moss)

เป็นซากพืชที่ขึ้นตามหนองสระ หรือเป็นส่วนที่ยังมีชีวิตอยู่มาทำให้แห้ง มีน้ำหนักค่อย สามารถซับน้ำได้มากถึง 10-20 เท่า เป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างจะสะอาด มีธาตุของกินน้อย นิยมประยุกต์ใช้ปลูกต้นกล้าที่เล็กๆหรือเก็บความเปียกชื้นให้กับรากรวมทั้งกิ่งขณะที่ทำการขนส่ง จัดเป็นสิ่งของที่ใช้ได้ดีกับต้นกล้ามีสารยั้งการเกิดโรคเน่าคอดินได้ด้วย

การ เพาะเม็ด พืชเครือญาติแตง ยกตัวอย่างเช่น แตงร้าน, แตงโม, แคนตาลูป, เมล่อน, แตงไทย, ฟักทอง, น้ำเต้า อื่นๆอีกมากมาย นำเม็ดมาแช่น้ำอุ่นราวๆ 40 – 50 องศาเซลเซียส โดยแช่ทิ้งเอาไว้ราวๆ 3 – 4 ชั่วโมง หรือจนกระทั่งเม็ดจะจมน้ำ แล้วหลังจากนั้นให้นำเม็ดมาเพาะในกล่องพลาสติกรักษาอาหารโดยวางรองด้วยกระดาษชำระประพรมน้ำให้เปียกแฉะ แล้วปิดฝาให้สนิท นำไปผึ่งแดดในช่วงเวลาเช้าโดยประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง จะมีผลให้เม็ดแตกหน่อเร็วขึ้น โดยทั่วไปจะใช้เวลาสำหรับในการแตกออกโดยประมาณ 4 – 7 วัน เมื่อเม็ดเริ่มแตกออกก็นำไปเพาะลงอุปกรณ์ปลูกถัดไป

เมื่อผ่านไปราวๆ 24 – 48 ชั่วโมง ภายหลังจากเพาะเม็ด ให้สังเกตุมองที่เม็ด จะเริ่มมีรากสีขาวของต้นกล้าแตกออกออกมาโดยประมาณ 2 มม. วัสดุปลูก ก็สามารถย้ายลงปลูกเอาไว้ภายในก้อนฟองน้ำได้เลย อย่าทำให้เกิน 2 วัน เนื่องจากว่าขณะนี้รากของสลัดจะยาวเร็วมาก ถ้าเกิดย้ายช้ากว่านั้นรากจะชิดกับกระดาษชำระทำให้ดึงออกได้ยาก แต่ว่าถ้าเกิดรากยาวมากมายให้พวกเราปรับปรุงแก้ไขโดยใช้ฟ็อคกี้ค่อยเสปรย์น้ำลงไปให้กระดาษฉุ่มน้ำพอกระดาษอ่อนนิ่มแล้วจะก่อให้พวกเราใช้คีมเล็กๆเบาๆดึงเม็ดออกมาได้ง่ายโดยที่รากจะไม่ขาด